เรื่องราวเบาสมอง ประเทืองตับกับ Acute Realty รอบนี้ มาเบาๆในแนวความเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับการสร้างบ้านสร้างอาคาร เหนืออื่นใด องค์ประกอบรอบอาคารสิ่งปลูกสร้างของเรา คงไม่พ้น “ ต้นไม้ “ เพราะนอกจากคุณประโยชน์ที่มากมายของต้นไม้แล้ว คนโบราณยังเชื่อว่าต้นไม้บางชนิดยังเป็นมงคลต่อท่านเจ้าของบ้านอีกด้วย
อันที่จริงไม้มงคลที่เชื่อกันมีหลายชนิด แต่ที่คนโบราณเชื่อจริงว่าเป็นไม้มงคล แท้ๆ ชนิดที่กรมป่าไม้ยังแนะนำว่าของเค้าดีจริง มีอยู่ 9 ชนิด ได้แก่ ราชพฤกษ์, ชัยพฤกษ์, ทองหลาง, ไผ่สีสุก, กันเกรา, ทรงบาดาล, สัก, พะยูง และขนุน ซึ่งไม้ทั้ง 9 ชนิด นิยมนำมาวางไว้ในศิลาฤกษ์ ประกอบพิธีมงคล ตลอดจนแก้อาถรรพ์ในสถานที่อีกด้วย ทีนี้ เรามาดูรายละเอียดแล้วความเชื่อเกี่ยวกับไม้มงคลกันครับ เริ่มจาก
1.”ราชพฤกษ์” หมายถึง ความเป็นใหญ่และมีอำนาจวาสนา
ราชพฤกษ์ เป็นไม้ยืนต้น มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cassia fistula L.อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE-CAESAL PINIOIEAE คนมักรู้ในามต้น “คูน” ลำต้นสูงราว 10-15 เมตร เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล ใบเป็นประกอบแบบขนนกมีใบย่อยขึ้นออกเป็นคู่ๆ ราว 3-8 คู่ ยาว 8-15 ซม. ส่วน ดอก ออกเป็นช่อตามซอกใบ ช่อยาว 25-40 ซม. มีดอกย่อยสีเหลืองสวยงามมาก โดยจะออกดอกช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ส่วนผล ออกเป็นฝักทรงกระบอก ยาว 25-60 ซม. เส้นผ่าศูนย์กลาง 1.5-2.5 ซม.
คนไทยโบราณเชื่อว่า หากปลูกต้นราชพฤกษ์ไว้ประจำบ้านจะช่วยและเป็นสิริมงคลแก่บ้านและผู้อาศัย เจ้าของบ้านจะมีเกียรติมีศักดิ์ศรี เป็นสัญลักษณ์ประจำชาติไทยอีกด้วย
การปลูกควรเป็นวันเสาร์ ปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ โดยให้ผู้ใหญ่ที่ควรเคารพนับถือและเป็นผู้ประกอบคุณงามความดีเป็นคนปลูก ยิ่งจะเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
2.”ชัยพฤกษ์”หมายถึง ความสำเร็จ การมีโชคชัย ชัยชนะ ชนะศัตรู ชนะอุปสรรคต่างๆ
“ชัยพฤกษ์” เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงราว 10-15 เมตร อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE ลำต้นตรงเปลือกต้นสีน้ำตาล ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ขึ้นเรียงสลับตามกิ่ง มีใบย่อยราว 5-15 คู่ เวลาออกดอก เป็นช่อตามซอกใบยาว 5-15 ซม. ดอกบานสีชมพู และค่อยเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม เส้นผ่าศูนย์กลางของดอกราว 3-4 ซม. จะออกดอกราวเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ส่วน ผล เป็นฝักกลมสีดำ ยาว 25-60 ซม. มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-1.5 ซม.เมื่อแก่ไม่แตก ด้านในมีเมล็ดจำนวนมาก
เชื่อว่า ชัยพฤกษ์ เป็นต้นไม้ของเทพเจ้า หากบ้านใดปลูกจะช่วยทำให้เกิดความประสบผลสำเร็จในชีวิต เพราะต้นชัยพฤกษ์เป็นสัญลักษณ์แห่งความชัยชนะ และความอิสระ ควรปลูกในวันเสาร์เช่นกัน ปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้
3.ปลูก”ทองหลาง”หมายถึง ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง มีเงินทองใช้ไม่ขัดสน
“ทองหลาง” เป็นต้นไม้สมัยพุทธกาล จัดอยู่ในจำพวกไม้มงคล คนสมัยก่อนนิยมปลูก เพราะเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นทองหลางไว้ประจำบ้าน จะทำให้เจ้าของมีความร่ำรวย มีทองมากมาย นักเล่นต้นไม้เชื่อว่า หากนำใบทองหลางไปใช้ในพิธีกรรมของศาสนาพุทธหรือพรามณ์ เช่น พิธีปลูกบ้าน วางศิลาฤกษ์ พิธีแต่งงาน จะทำให้เกิดสิริมงคลยิ่งขึ้น
หากจะให้มีมงคลยิ่ง ผู้ปลูกควรเป็นผู้เกิดในปีมะแม และปลูกในวันเสาร์ ทางทิศเหนือ เป็นต้นไม้ชอบดินร่วนซุย ต้องแดดจัด เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ อยู่ในวงศ์ “LEGUMINOSAE” ลำต้นมีสีเทาออกเหลืองอ่อนๆ แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ออกไปรอบๆ ต้น ตามลำต้นและกิ่งมีหนามแหลมคมคล้ายกับต้นงิ้ว
ใบเป็นใบรวม ออกเป็นช่อ ช่อละราว 3 ใบ รูปทรงจะออกสามเหลี่ยมคล้ายใบโพธิ์ โคนใบมน ปลายใบแหลม ใบมีสีเขียวสด สลับสีเหลืองลากผ่านตามเส้นแขนงของใบไปทั่ว ออกดอกเป็นช่อ ตามข้อต้นหรือโคนใบ ราวช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ช่อของดอกจะยาว 8-12 ซม. สีแดงสด เมื่อออกดอกลำต้นจะทิ้งใบหมด เห็นแล้วสวยอีกแบบหนึ่ง
4.”ไผ่สีสุก”หมายถึง มีความสุขกายสบายใจ ไร้ทุกข์โศกโรคภัย
“ไผ่สีสุก” นอกจากจะมีประโยชน์ในการช่วยบังลม และนำหน่อไม้มาทำเป็นอาหารแล้ว ยังมีความเชื่อว่า ถ้าปลูกไผ่สีสุกไว้ภายในบริเวณบ้าน จะทำให้คนภายในบ้านมีความซื่อตรง ดุจลำต้นของไผ่ และยังให้เจ้าของบ้าน มีความเป็นอยู่ที่ดี มั่งมีศรีสุขด้วย การปลูกควรคนในบ้านที่เกิดปีมะแม ก็จะยิ่งเป็นมงคล เพราะเป็นไม้มงคลประจำปีมะแม เวลาปลูกควรปลูกไว้ทางทิศตะวันออก
ไผ่สีสุก ขึ้นเป็นกอลำต้นตรงสูงยาว 10-18 เมตร อยู่ในวงศ์ Gramineae มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8-15 ซม. ผิวเรียบเป็นมัน ข้อไม่พอง แต่กิ่งก้านสาขาเป็นฉากกับลำต้น ใบ เป็นรวมแต่ละใบมีใบย่อย 5-6 ใบ ใกล้ปลายกิ่ง รูปเรียวแหลม โคนใบเป็นรูปลิ่ม แผ่นใบกว้าง 1-2 ซม. ยาว 10-20 ซม. ใต้ใบมีสีเขียวอมเหลือง ก้านใบสั้น ขอบใบสาก
5. “กันเกรา” หมายถึง ป้องกันภัยอันตราย ภูตผี โรคภัยต่างๆ
“กันเกรา” ถือเป็นไม้มงคลนามอีกชนิดหนึ่ง ที่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานกล้าไม้มงคลประจำจังหวัดนครพนม ซึ่งเชื่อกันว่า ถ้าปลูกต้นกันเกราจะเป็นมงคลแก่ตัวผู้ปลูกและบริวารภายในบ้าน โดยจะช่วยคุ้มภยันตราย ควรปลูกทางทิศใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และปลูกในวันเสาร์ จะส่งผลให้ดียิ่ง
เป็นไม้ยืนต้นอยู่ในวงศ์ “POTALIACEAE” สูงราว 15-20 เมตร ลำต้นตรง ใบ ออกตามกิ่งเป็นคู่ๆ รูปทรงรี ยาว 8-12 ซม. กว้าง 2-4 ซม. ใบจะบางแต่เหนียว ปลายใบแหลมสีเขียวเข้ม โคนก้านมีใบหุ้มกระชับ ดอกออกเป็นช่อขึ้นตามง่ามใบและปลายกิ่ง มีดอกย่อยด้วยแต่เล็กมากเชื่อมติดกัน เมื่อดอกบานจะมีสีขาว และค่อยเป็นสีเหลือง กลิ่นหอมเย็น ปลายแยกเป็น 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 5 อัน เมื่อดอกร่วงมี ผล ขนาดเล็กรูปทรงกลม ออกเป็นพวง ผลสีแดงมีเนื้ออ่อน เป็นที่โปรดปรานของนกตระกูลปรอด
6.”ทรงบาดาล”หมายถึง ความมั่นคงแข็งแรง เป็นใหญ่
“ทรงบาดาล” จัดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางตระกูลถั่ว สูงราว 4-8 เมตร รูปทรงพุ่ม อยู่ในวงศ์ LEGUMINOSAE แตกกิ่งก้านสาขามาก ใบ เป็นใบรวมออกเป็นแผงบนก้านใบด้านเดียวกันเป็นคู่ๆ ใบย่อยรูปทรงรี ส่วนดอกมีสีเหลืองออกตามซอกใบและปลายกิ่งเวลาบานมี 5 กลีบสีเหลือง ขณะที่ผลออกเป็นฝักแบนๆ คล้ายส้มป่อย กว้าง 1 ซม. ยาว 10-15 ซม.
คนโบราณเชื่อว่า ปลูกแล้วเจ้าของบ้านจะเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ กว้างขวาง เป็นที่นับหน้าถือตาและเป็นที่ยำเกรงของคนทั่วไป เพราะคำว่า ทรงบาดาล คือผู้เป็นใหญ่แห่งนาคพิภพในชั้นบาดาลนั่นเอง นิยมในพิธีก่อฤกษ์หรือวางศิลาฤกษ์ ส่วนการปลูกควรปลูกวันเสาร์ทางด้านทิศตะวันตก
7. “สัก” หมายถึง ความมีศักดิ์ศรี ความมีเกียรติ อำนาจบารมี คนเคารพนับถือและยำเกรง
“สัก” ไม่เพียงแต่จะเป็นไม้เศรษฐกิจที่มีราคาสูงอย่างเดียว แต่คนโบราณเชื่อว่าจะช่วยเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลให้แก่เจ้าของบ้าน และผู้อยู่อาศัยอีกด้วย คือ จะช่วยเพิ่มความมีสง่าราศี มีตำแหน่ง และเป็นที่เคารพยกย่องจากบุคคลทั่วไป เวลาปลูกปลูกทิศเหนือ ปลูกในวันเสาร์
เป็นไม้ยืนต้น ขนาดใหญ่ อยู่ในวงศ์ VERBENACEAE ลำต้นชะลูดสูงถึง 30 เมตร เปลือกสีเทา มีรอยแตกเป็นร่องเล็กๆ ออกเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่ ออกตรงข้ามกันเป็นคู่ตามกิ่ง กว้างและยาวราว 25-30 ซม. โคนมน ปลายใบแหลม ผิวใบขนสากสีเขียวเข้ม ออกดอก เป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบและปลายกิ่งบานสีขาวนวล ส่วน ผล ทรงกลม พอแก่เปลือกแห้ง มีเส้นผ่าศูนย์กลางราว 2 ซม.
8.ปลูก”พะยูง”หมายถึง การพยุงฐานะให้ดีขึ้น ไม่ตกต่ำ
“พะยูง” เป็นพรรณไม้พระราชทาน เพื่อเป็นไม้มงคลประจำจังหวัดหนองบัวลำภู คนไทยเราเชื่อว่า ถ้าปลูกแล้วจะทำให้พ้นภับพิบัติ และจะมีฐานะที่ขึ้น จะช่วยพยุงให้ทุกอย่างที่ดีขึ้น
เป็นยืนต้นขนาดกลางในวงศ์ LEGUMINOSAE สูงราว 15-20 เมตร เปลือกต้นสีเทา ผิวเรียบ เรือนยอดทรงกลมใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกสองชั้นเรียงสลับตามต้น แต่ละใบมีใบย่อย 7-9 ใบ กว้าง 3-4 ซม. ยาว 4-7 ซม. โคนใบย่อยสอบ ปลายใบแหลม ผิวใบด้านบนสีเขียวเข้ม ท้องใบสีจาง
ดอก ออกเป็นช่อขนาดเล็กตามซอกใบและที่ปลายกิ่ง เวลาบานสีขาว ส่งกลิ่นหอมอ่อน ส่วน ผล เป็นฝักแบนกว้างราวๆ 1 ซม. ยาว 4-6 ซม. ด้านในเมล็ด 1-4 เมล็ด ฝักออกราวเดือนกรกฎาคม-กันยายน
9.”ขนุน” หมายถึง หนุนให้ดีขึ้นร่ำรวยขึ้น ทำอะไรจะมีผู้ให้การเกื้อหนุน
บางคนปลูก “ขนุน” หวังที่จะกินผล หารู้ไม่ว่า โบราณเชื่อว่าเป็นไม้มงคล หากไว้ปลูกหลังบ้านจะมีผู้อุดหนุนค้ำจุน หรือมีผู้ใหญ่จะให้ความช่วยเหลือให้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นไม้มงคล 8 ทิศด้วย หากให้เป็นมงคลควรปลูกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ยิ่งเจ้าของบ้านเกิปปีวอกจะทำให้มีมงคลยิ่งขึ้น
เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูง 15-20 เมตร ในวงศ์ MORACEAE เปลือกต้นสีเทาน้ำตาล มีรอยแตกและน้ำยางสีขาวข้นไหลประปราย ใบ เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปทรงรี กว้าง 5-8 ซม. ยาว 10-15 ซม. โคนใบมนปลายใบทู่
ออกดอกเป็นช่อรวมกันเป็นกลุ่ม ตามกิ่ง มีลักษณะเป็นแท่งยาว 2-5 ซม. เป็นสมบูรณ์เพศ ดอกเพศมีกลิ่นหอมคล้ายส่าเหล้า ส่วนผลรูปทรงกลมและยาวขนาดใหญ่ หนัก 10-60 กก. เปลือกผลเป็นตุ่มๆคล้ายหนาม ด้านในมีเนื้อหุ้มเมล็ดหรือยวงจำนวนมาก
อ่านบทความนี้แล้ว ไม่ต้องถึงขนาดไปถอนต้นมะม่วง มะนาวที่บ้านออกแล้วปลูก 9 ไม้มงคลเข้าแทนน่ะครับ ต้นไม้ทุกต้นมีคุณค่าให้ประโยชน์กับมนุษย์ได้ เพียงแต่อาจไม่ได้ขึ้นทำเนียบ 9 ไม้มงคลของประชาสากล เช่นเดียวกัน หลายๆครั้ง การทำความดี ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ยกย่องของสังคม ขอเพียงเรารู้ว่าเราทำความดี และทำต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ แม้ไม่ขึ้นทำเนียบคนดีของใคร แต่ใจของเราก็มีความสุขเสมอ และสักวันผลแห่งความดีที่ทำจะตอบแทนเราอย่างแน่นอนครับ
ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก